วันเสาร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2553

Frederic Francois Chopin (Fryderyk Franciszek Chopin) 1810-1849
โชแปง (Chopin) เกิดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ค.ศ.1810 แต่บางเอกสารกล่าวว่าเขาเกิดวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1810 ตามเวลาที่เขารับศีลล้างบาป (Baptismal certificate) โชแปงเกิดที่เมือง Zelazowa Wola ประเทศโปแลนด์ โชแปงเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศสกับโปแลนด์ แต่โตที่โปแลนด์โดยคุณแม่เป็นคนท้องถิ่น และคุณพ่อก็เป็นอาจารย์ที่เข้ามาสอนในโปแลนด์ โชแปงได้เรียนดนตรี (เปียโน) และฉายแววมาตั้งแต่เล็กๆ โดยเรียนกับ Wojciech Zywny และ Jósef Elsner ก่อนที่จะเข้าศึกษาในวิทยาลัยในปี 1826-1829 ที่กรุง Warsaw ซึ่งในช่วงเวลานั้น เขาก็ได้เริ่มแสดงตาม salon ต่างๆในเมือง และเริ่มมีผลงานเขียนเพลง เช่น rondos, polonaises และ mazurkas ออกมาบ้างแล้ว
เมื่ออายุได้ 15 ปี เขาได้แสดงคอนเสิร์ตเก็บเงินบำรุงการกุศล พระเจ้าซาร์แห่งรัสเซียทรงพอพระทัยในการเล่นเปียโนของเขามาก ถึงกับพระราชทานแหวนเพชรให้เขา เมื่อสำเร็จการศึกษาจาก Warsaw-Conservatory เขาได้เดินทางไปหลายแห่ง และในกรุงเวียนนาเขาก็ได้ทราบข่าวว่า ประชาชนในกรุงวอร์ซอร์ลุกฮือขึ้นจับอาวุธต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรงที่สุด ในสมัยนั้นประเทศใหญ่ๆหลายประเทศในยุโรป พยายามรุกรานเพื่อแผ่ขยายอาณาเขตของตน ไปยังประเทศที่เล็ก และอ่อนแอกว่า เช่น จักรวรรดิรัสเซียก็ได้บุกรุกและครองอำนาจอธิปไตยเหนือประเทศโปแลนด์ จึงนำมาซึ่งความปวดร้าวในจิตใจของประชาชนในประเทศเล็กๆนี้เป็นอย่างมาก ประชาชนส่วนมาก โดยเฉพาะชนชั้นปัญญาชนของประเทศที่ตกเป็นเมืองขึ้น ต่างก็จับกลุ่มกันดำเนินการกู้ชาติอย่างลับๆ โชแปงก็เป็นหนึ่งในนั้น ที่เข้าร่วมขบวนการใต้ดินต่อต้านจักรวรรดิรัสเซีย เพื่อกอบกู้ชาติให้เป็นเอกราช ทำให้เขาตกเป็นหนึ่งในบุคคลที่ทางการรัสเซียหมายหัวเอาไว้ เช่นเดียวกับศิลปินอีกหลายคนในยุคโรแมนติก ที่มีความรู้สึกรุนแรงในความรักต่อประเทศชาติของตนเอง
ในที่สุดโชแปงก็ต้องลี้ภัยทางการเมืองไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อเขาอายุได้ประมาณ 21 (ปี ค.ศ.1831) ที่นั่นเองโชแปงได้พบปะ และเป็นเพื่อนกับศิลปินชั้นนำในวงการหลายคน เช่น ฟรานซ์ ลิสต์ (Franz Liszt : 1811-1886) นักเปียโนชาวฮังกาเรียน ผู้มีฝีมือมหัศจรรย์ไม่น้อยไปกว่าโชแปงเลย เขารู้จักนับถือ และสนิทสนมกันมาก จนสามารถกล่าวได้ว่า Liszt เป็นบุคคลสำคัญที่เบิกทาง และชักนำให้โชแปงเข้าสู่วงการศิลปะ ดนตรี และวงสังคมชั้นสูงของปารีส นอกจากนี้เขายังได้รับความช่วยเหลือ และแรงสนับสนุนจาก Kalkbrenner, Pleyel, Fétis และ Schumann ประกอบกันไป ต่อมาโชแปงได้รู้จักกับ นักเขียนสตรีชาวฝรั่งเศสผู้มีชื่อเสียงในวงการวรรณกรรมยุโรป เธอเป็นสตรีจากสังคมชั้นสูงของฝรั่งเศส เป็นเศรษฐีแม่ม่ายลูกติด และเป็นสตรีที่มีบุคลิกภาพเข้มแข็งรุนแรง เช่นเดียวกับศิลปินในยุคโรแมนติกทั้งหลาย เธอมีอิทธิพลอย่างสูงต่อโชแปง เพราะ โชแปงนั้นอ่อนแอทั้งร่างกาย และอ่อนไหวทางอารมณ์ แต่อย่างไรก็ตามด้วยแรงบันดาลใจจากสตรีผู้นี้ ทำให้โชแปงประพันธ์บทเพลงสำหรับเปียโน ที่อ่อนหวาน ไพเราะงดงามเข้มข้น และลึกซึ้งออกมามากมาย เธอเป็นที่รู้จักกันดีด้วยนามแฝงที่ใช้ในการประพันธ์ว่าจอร์จ ซองด์ (George Sand 1804-1876) ซึ่งเคยเขียนยกย่อง และกล่าวว่า Chopin เป็นดาวดวงใหม่ที่น่าจับตามอง ในตอนแรกๆ Chopin รู้สึกรังเกียจ เพราะเธอเป็นแม่หม้ายลูกติด แต่ ยอร์ช ซองด์ เป็นผู้หญิงที่มีจิตใจเข็มแข็งเอาชนะจิตใจของ Chopin และได้ตกลงแต่งงานกัน แต่ความแตกร้าวระหว่างทั้งสองก็เกิดขึ้นและเลิกกันในที่สุด
ช่วงบั้นปลายชีวิตของโชแปง เขาได้พยายามจัดแสดงคอนเสิร์ตในกรุงปารีส และที่ต่างๆ เพื่อนำเงินส่งไปช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามโปแลนด์ แต่เพราะเขามีสุขภาพไม่ค่อยดี จึงเดินทางกลับปารีส หลังจากนั้นสุขภาพของเขาก็ยิ่งทรุดหนักลงอีก ทั้งฐานะทางการเงินก็ไม่ดีนัก เมื่อใกล้จะเสียชีวิตเขาได้ขอร้องให้เอาก้อนดินจากโปแลนด์ ซึ่งเขาได้รับจากครู และเพื่อนๆ เมื่อครั้งที่เขาจากกรุงวอร์ซอร์มาจูบเป็นครั้งสุดท้าย โชแปงได้สิ้นใจ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1849 ด้วยวัณโรค รวมอายุได้เพียง 39 ปี ทิ้งความทรงจำในฐานะนักเปียโนเอกคนสำคัญที่สุดคนหนึ่งของโลก เขาได้ฝากมรดกทางดนตรีไว้มากมาย และเพลงอมตะของเขายังก้องกระหึ่มไปทั่วโลกจนกระทั่งทุกวันนี้ แม้กระทั่งตัวดิฉันเองก็เล่นบทเพลงของโชแปงมาตั้งหลายเพลงตั้งแต่เด็กๆจนถึงปัจจุบัน โชแปงชอบใช้โน้ตหลายพยางค์ในจังหวะเดียว เล่นยากมาก แต่ก็เพราะสุดๆ เพลงของเขาส่วนใหญ่จะฟังหวานๆ เช่นพวก Nocturne ก็แต่งได้เป็นที่นิยมที่สุดเขาได้แต่งเพลงประเภทต่างๆประมาณ 200 เพลง เกือบทั้งหมดเป็นเพลงเปียโน โชแปงได้ประพันธ์เพลงเกี่ยวกับความรู้สึกชาตินิยมไว้หลายบทด้วย เช่น Polonaise in A Flat Major op. 53 เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ และสดุดีความกล้าหาญ เป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อสู้เพื่อปกป้องมาตุภูมิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น